Close Menu
  • Home
  • Articles
  • About
    • Sitemap
  • Privacy Policy
Facebook X (Twitter) Instagram
Trending
  • ย้ายตำแหน่ง Windows 11 Taskbar ไปอยู่ด้านซ้ายมือ
  • แก้ไขปัญหาไม่มี New Word Doc เมื่อเมนู Right click
  • รีวิว MAKITA DTD157 ไขควงกระแทกไร้สาย: ตัวเล็ก น้ำหนักเบา ตอบโจทย์งาน DIY
  • การลงทะเบียนสินค้ามากีต้า (Makita) ประเทศไทย
  • Panasonic eneloop (AA) 1.2V 1900 mAh แพงกว่า แล้วคุ้มไหม
  • แนวทางการเลือกซื้อสว่านไร้สายและไขควงไร้สายสำหรับงาน DIY
  • รีวิว Makita DHP486 สว่านไร้สาย 3 ระบบ – เจาะ ไม้/เหล็ก/ปูน & ขันสกรู
  • XTAR VC4 ราคาหลักร้อย ชาร์จแบตเตอรี่พร้อมกัน 4 ก้อน
Facebook X (Twitter) Instagram
SARANITUS
  • Home
  • Articles
  • About
    • Sitemap
  • Privacy Policy
SARANITUS
How-to

การอัพเดต Windows Server 2012 R2 Server Core ผ่าน WSUS Server

DefiniBy DefiniDecember 7, 2015No Comments2 Mins Read

ในตอนที่แล้วผมได้แนะนำ วิธีการอัพเดต Windows Server 2012 R2 ติดตั้งแบบ Server Core ผ่านทางบริการ Windows Update แบบสาธารณะ (Public) บนอินเทอร์เน็ตไปแล้ว สำหรับตอนนี้จะขอแนะนำวิธีอัพเดต Server Core ผ่านทาง Windows Server Update Services (WSUS) Server ซึ่งเป็นบริการ Windows Update แบบไปรเวท (Private) ให้ได้ทราบกันครับ

วิธีการอัพเดต Windows Server 2012 R2 Server Core ผ่าน WSUS Server
[เนื้อหาในเรื่องนี้จะอ้างอิงการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ในสภาพแวดล้อมแบบกลุ่มงานนะครับ]
โดยปกติแล้วการตั้งค่าให้ Windows Server รับอัพเดตผ่านทาง WSUS Server นั้นทำได้โดยใช้เครื่องมือ 2 ตัว คือ Group Policy Editor และ Registry Editor แต่บน Server Core* นั้นจะมี Registry Editor ให้ใช้งานได้เพียงตัวเดียวเท่านั้นครับ ถึงแม้ว่า Registry Editor นั้นใช้งานได้ยากกว่า Group Policy Editor แต่ก็ไม่มีทางเลือกครับ

ก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนการตั้งค่ารีจีสทรี่ย์ ผมขอแนะนำคีย์และรีจีสทรี่ย์ที่เกี่ยวข้องให้ทราบก่อนดังนี้ครับ

การตั้งค่า Windows Update บน Windows Server 2012 R2 ทั้งที่ติดตั้งแบบกราฟิกอินเทอร์เฟซ (Server with a GUI) และไม่มีกราฟิกอินเทอร์เฟซ (Server Core) นั้นมีคีย์ที่เกี่ยวข้อง 2 คีย์และมีรีจีสทรี่ย์ทั้งหมด 19 ค่า อย่างไรก็ตามบน Server Core นั้นใช้แค่ 3 ค่าก็เพียงพอแล้ว**

คีย์ที่เกี่ยวข้อง 2 คีย์ คือ WindowsUpdate และ AU
WindowsUpdate อยู่ที่ตำแหน่ง HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Policies\Microsoft\Windows\WindowsUpdate
AU อยู่ที่ตำแหน่ง HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Policies\Microsoft\Windows\WindowsUpdate\AU

บน Server Core ใช้รีจีสทรี่ย์ 3 ค่า คือ WUServer, WUStatusServer และ UseWUServer

WUServer และ WUStatusServer เป็น String value อยู่ภายใต้คีย์ HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Policies\Microsoft\Windows\WindowsUpdate

UseWUServer เป็น DWORD (32-bit) Value อยู่ภายใต้คีย์ HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Policies\Microsoft\Windows\WindowsUpdate\AU

ข้อควรระวัง: การแก้ไขรีจีสทรี่ย์ผิดพลาดอาจทำให้ระบบไม่สามารถทำงานได้ ดังนั้นแนะนำให้ทำการส่งออกรีจีสทรี่ย์ไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยก่อนลงมือเปลี่ยนแปลงแก้ไข

การค่าให้ Server Core ให้รับอัพเดตผ่านทาง WSUS Server โดยใช้ Registry Editor มีขั้นตอนดังนี้

1. พิมพ์ regedit (ใช้ตัวใหญ่หรือตัวเล็กก็ได้ครับ) ที่พร้อมท์คำสั่ง เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter

2. ในคอลัมน์ด้านซ้ายให้เลือก HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Policies\Microsoft\Windows\WindowsUpdate

ถ้าหากไม่มีคีย์ WindowsUpdate ให้ทำการสร้างเพิ่มโดยคลิกขวาบนคีย์ Windows จากนั้นเลือก New แล้วเลือก Key โดยให้ตั้งชื่อว่า WindowsUpdate

3. ทำการสร้างรีจีสทรี่ย์คีย์เพิ่ม 2 ตัว โดยการคลิกขวาบนคีย์ WindowsUpdate จากนั้นเลือก New แล้วเลือก String value โดยให้ตั้งชื่อดังนี้

  • รีจีสทรี่ย์คีย์ตัวที่ 1 ให้ตั้งชื่อว่า WUServer และตั้งค่าเป็นชื่อเซิร์ฟเวอร์หรือหมายเลขไอพีแอพเดรส โดยให้ใส่เป็น http://wsus_server_ip_address หรือ http://wsus_server_fqdn ตัวอย่างเช่น http://192.168.9.10 หรือ http://wsus.yourcompany.com เป็นต้น
  • รีจีสทรี่ย์คีย์ตัวที่ 2 ให้ตั้งชื่อว่า WUStatusServer การตั้งค่านั้น กรณีที่ใช้ WSUS Server ตัวเดียวให้ตั้งค่าเหมือน WUServer ถ้าหากใช้ WSUS Server หลายตัวให้ใส่ http://wsus_server_n_ip_address หรือ http://wsus_server_n_fqdn ตัวอย่างเช่น http://192.168.9.11 หรือ http://wsus1.yourcompany.com เป็นต้น

รูปที่ 1: คีย์ WindowsUpdate

4. ทำการสร้างคีย์เพิ่มโดยคลิกขวาบนคีย์ WindowsUpdate จากนั้นเลือก New แล้วเลือก key
โดยให้ตั้งชื่อว่า AU

5. ทำการสร้างรีจีสทรี่ย์คีย์เพิ่ม 1 ตัว โดยคลิกขวาบนคีย์ AU จากนั้นเลือก New แล้วเลือก DWORD (32-bit) Value โดยให้ตั้งชื่อว่า UseWUServer โดยให้ตั้งค่าเป็น 1 เสร็จแล้วปิดหน้าต่าง Registry Editor

รูปที่ 2: คีย์ AU

รายละเอียดการตั้งค่ารีจีสทรี่ย์ อ่านเพิ่มเติมได้จาก https://technet.microsoft.com/en-us/library/cc708449%28WS.10%29.aspx

การตรวจสอบอัพเดตบน Windows Server 2012 R2 Server Core
การตั้งค่า Windows Server 2012 R2 Server Core ให้รับอัพเดตผ่าน WSUS Server มีขั้นตอนที่จำเป็นก็มีเพียงแค่นี้ แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เซิร์ฟเวอร์จะสามารถรับอัพเดตจาก WSUS Server ได้เซิร์ฟเวอร์จะต้องได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มที่เหมาะสมบน WSUS Server ซึ่งผมยังไม่ขอลงรายละเอียดในตอนนี้ (เพราะเป็นเรื่องค่อนข้างยาว จึงคิดว่าจะดีกว่าถ้าแยกเป็นอีกเรื่องโดยจะนำมำฝากในโอกาสถัดไปครับ

สำหรับการตรวจสอบอัพเดตนั้นทำได้โดยใช้ Server Configuration Tool ตามรายละเอียดในเรื่อง วิธีการอัพเดต Windows Server 2012 R2 ติดตั้งแบบ Server Coreครับ

หมายเหตุ: การอัพเดต Server Core ทำได้โดยใช้ Server Configuration Tool โดยสามารถทำได้จากหน้าเครื่อง (ล็อกออนจากหน้าเครื่อง) หรือผ่านทางเดสก์ท็อประยะไกล

*ในกรณีที่ใช้งาน Server Core ในสภาพแวลล้อมแบบแอคทีฟไดเร็กตอรี่โดเมน สามารถใช้การตั้งค่านโยบายกลุ่มโดยใช้ Group Policy Management ได้ แต่ผมยังไม่ขอลงรายละเอียดในตอนนี้นะครับ (เรื่องมันยาวนะครับ)
**คุณสามารถใช้งานรีจีสทรี่ย์มากกว่าที่ผมแนะนำได้ถ้าจำเป็น แต่ไม่ควรใช้รีจีสทรี่ย์ที่ต้องโต้ตอบแบบกราฟิกเพราะ Server Core ไม่มีอินเทอร์เฟซแบบกราฟิกครับ

แหล่งข้อมูล
Servicing a Server Core installation
Installing updates on Windows Server 2008/2012/R2 Core

How-to Hyper-V Microsoft Operating System Server Core Step by Step System Administrator Tips Tutorials Windows Server 2012
Defini

Related Posts

ทดสอบแอปด้วย Sandbox บน Windows 10 เวอร์ชัน 1903

September 26, 2019

การเปิดหรือปิดการซิงค์ OneDrive บน Windows 10 เมื่อใช้ Metered connection

September 26, 2019

การใช้งาน OneDrive Basic หรือ Personal และ Business บน Windows 10 เครื่องเดียวกัน

September 25, 2019

Comments are closed.

Recent Posts
  • ย้ายตำแหน่ง Windows 11 Taskbar ไปอยู่ด้านซ้ายมือ
  • แก้ไขปัญหาไม่มี New Word Doc เมื่อเมนู Right click
  • รีวิว MAKITA DTD157 ไขควงกระแทกไร้สาย: ตัวเล็ก น้ำหนักเบา ตอบโจทย์งาน DIY
  • การลงทะเบียนสินค้ามากีต้า (Makita) ประเทศไทย
  • Panasonic eneloop (AA) 1.2V 1900 mAh แพงกว่า แล้วคุ้มไหม
Ads
Tags
Android Apps Battery Cloud Download Firefox Google Play How-to Hyper-V Internet Explorer IoT Microsoft MS Office & Office 365 OneDrive Operating System PowerShell Server Core Smartphone Step by Step System Administrator Tips Tutorials Virtualization Virtual Machine Windows 7 8 8.1 Windows 10 Windows Insider Windows Server 2012 Windows Server 2016
บทความล่าสุด
  • ย้ายตำแหน่ง Windows 11 Taskbar ไปอยู่ด้านซ้ายมือ
  • แก้ไขปัญหาไม่มี New Word Doc เมื่อเมนู Right click
  • รีวิว MAKITA DTD157 ไขควงกระแทกไร้สาย: ตัวเล็ก น้ำหนักเบา ตอบโจทย์งาน DIY
  • การลงทะเบียนสินค้ามากีต้า (Makita) ประเทศไทย
  • Panasonic eneloop (AA) 1.2V 1900 mAh แพงกว่า แล้วคุ้มไหม
Facebook X (Twitter) Instagram YouTube
  • Home
  • Articles
  • About
    • Sitemap
  • Privacy Policy
© 2025 SARANITUS. All Rights Reserved.

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.