สวัสดีครับ วันนี้ผมมีประสบการณ์เกี่ยวกับการแก้ปัญหาการสวิทช์โหมดการติดตั้ง Windows Server 2012 R2 มาแบ่งปันเพื่อให้ผู้ดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์ระบบ Windows ที่ประสบปัญหาลักษณะเช่นนี้ได้ใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหา โดยปัญหาที่ว่าคือ การติดตั้งเกิดความล้มเหลวหลังจากทำงานไปได้ประมาณ 68% ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ครับ
รายละเอียดปัญหา
สำหรับปัญหาที่พบ คือ เมื่อคุณทำการสวิทช์โหมดการติดตั้ง Windows Server 2012 R2 ตัวอย่างเช่น สวิทช์จาก Server Core ไปเป็น Server with a GUI โดยการใช้คำสั่ง PowerShell ตัวอย่างเช่น Install-WindowsFeature Server-Gui-Shell การติดตั้งจะทำงานค้างอยู่ที่ 68% เป็นเวลานานและจะล้มเหลวในที่สุด
รูปที่ 1
โดยระบบจะแสดงข้อความ Install-WindowsFeature : The request to add or remove features on the specified server failed. Installation of one or more roles, role services, or features failed. The source files could not be download. ลักษณะดังรูปที่ 1
รูปที่ 2
สาเหตุ
ปัญหาการสวิทช์โหมดการติดตั้ง Windows Server 2012 R2 แล้วเกิดความล้มเหลวเมื่อทำงานไปได้ประมาณ 68% เกิดจากระบบการติดตั้งไม่สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตเพื่อดาวน์โหลดข้อมูลที่ต้องใช้ในการติดตั้งได้
วิธีแก้ปัญหา
การแก้ปัญหาดังกล่าวนี้ทำได้ 2 วิธีการดังนี้
วิธีที่ 1 ต่อเครื่อง Windows Server 2012 R2 กับอินเทอร์เน็ต
วิธีการที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดในการแก้ปัญหาสวิทช์โหมดการติดตั้ง Windows Server 2012 R2 แล้วการทำงานล้มเหลวหลังจากทำไปได้ 68% คือ ทำการต่อเซิร์ฟเวอร์เข้ากับอินเทอร์เน็ต จากนั้นจึงทำการสวิทช์โหมดการติดตั้งใหม่อีกครั้ง แต่ถ้าคุณไม่สามารถใช้วิธีการนี้ได้ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตหรือด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ให้คุณแก้ไขโดยการระบุแหล่งข้อมูลสำหรับใช้ติดตั้งตามใน วิธีที่ 2 ด้านล่างครับ
วิธีที่ 2 ระบุแหล่งข้อมูลสำหรับใช้ติดตั้ง
การแก้ไขวิธีนี้จะต้องใช้ดีวีดีหรือยูเอสบีแฟลชไดรฟ์หรือไฟล์อิมเมจไอเอสโอสำหรับติดตั้ง Windows Server 2012 R2 โดยมีขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 ทำการเม้าท์ Install.wim
ก่อนอื่นคุณต้องทำการเม้าท์ Install.wim โดยการใช้คำสั่ง Deployment Image Servicing and Management (DISM.exe) จากพร้อมท์คำสั่งตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ (ตัวอักษรเล็กหรือใหญ่ไม่มีผลครับ)
1. ใส่แผ่นดีวีดี หรือต่อยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ หรือเม้าท์ไฟล์อิมเมจไอเอสโอ สำหรับติดตั้ง Windows Server 2012 R2 โดยให้จำชื่อไดรฟ์ที่ได้เพื่อ ในที่นี้เป็นไดรฟ์ D:
[ข้อ 2-3 ด้านล่าง สามารถทำได้ทั้งจากพร้อมท์คำสั่งหรือจากใน PowerShell]
2. เปิดพร้อมท์คำสั่งด้วยสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ แล้วทำการสร้างโฟลเดอร์สำหรับใช้ทำการเม้าท์ Install.wim โดยการรันคำสั่งที่พร้อมท์คำสั่งดังนี้
MKDir C:\Mount
3. ตรวจสอบดัชนีของอิมเมจตัวที่ใช้ในการเม้าท์ โดยการรันคำสั่งที่พร้อมท์คำสั่งดังนี้
DISM /Get-Wiminfo /Wimfile:D:\Sources\Install.wim
รูปที่ 3
หมายเหตุ: D: คือชื่อไดรฟ์ที่ได้จากข้อ 1.
4. ทำการเม้าท์อิมเมจตามดัชนีในข้อที่ 2 (ในที่นี่คือ 2) กับโฟลเดอร์ที่สร้างในข้อ 2 โดยการรันคำสั่งที่พร้อมท์คำสั่งดังนี้
DISM /Mount-wim /Wimfile:D:\Sources\Install.wim /Index:2 /Mountdir:C:\Mount /ReadOnly
รูปที่ 4
ขั้นตอนที่ 2 ทำการสวิทช์การติดตั้ง Windows Server 2012 R2
หลังจากทำการเม้าท์อิมเมจเสร็จแล้วจากนั้นให้ทำการสวิทช์การติดตั้ง Windows Server 2012 R2 ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. (ถ้าคุณเปิด PowerShell อยู่แล้วให้ข้ามไปข้อที่ 2) ทำการเปิด PowerShell โดยการรันคำสั่ง powershell ที่พร้อมท์คำสั่ง
2. ทำการรันคำสั่ง Install-WindowsFeature โดยระบุแหล่งสำหรับใช้ติดตั้งดังตัวอย่างด้านล่าง
ตัวอย่าง: สวิทช์การติดตั้ง Windows Server 2012 R2 จาก Server Core เป็น Server with a GUI เสร็จแล้วทำการเริ่มต้นระบบโดยอัตโนมัติ ทำได้โดยการรันคำสั่ง PowerShell ดังต่อไปนี้
Install-WindowsFeature Server-Gui-Shell -Source C:\Mount\Windows\WinSXS -Restart
รูปที่ 5
ทั้งหมดนี้คือวิธีการแก้ปัญหาที่อาจจะพบได้เมื่อคุณทำการสวิทช์การติดตั้ง Windows Server 2012 R2 ซึ่งยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการติดตั้งหน้าที่ (Roles) คุณสมบัติ (features) ต่างๆ ได้เช่นกันครับ
สำหรับวิธีการสวิทช์การติดตั้ง Windows Server 2012 R2 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
แหล่งข้อมูล
How to change between a Full Installation (GUI) and Server Core in Windows Server 2012
What is DISM?