สวัสดีครับ วันนี้ผมมีวิธีการและขั้นตอนการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการใช้งานเครือข่าย Wi-Fi บนเครื่องพีซี Windows 10 มาฝากเพื่อเป็นแนวทางให้แก่ผู้อ่านได้นำไปประยุกต์ใช้งานหรือต่อยอดต่อไปครับ
ตัวอย่างสถานการณ์
คุณใช้งานเครื่องโน้ตบุ๊ค Windows 10 ผ่านเครือข่าย Wi-Fi โดยที่ผ่านมาการใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีปัญหาอะไร แต่แล้ววันหนึ่งเกิดปัญหาใช้งาน Wi-Fi ไม่ได้เนื่องจากเครื่องจับสัญญาณไม่ได้ และเมื่อคุณเข้าไปยังหน้า Settings > Network & Internet ปรากฏว่าไม่มีหัวข้อ “Wi-Fi” ในขณะที่หัวข้อ Status ขึ้นเป็น Not connected ดังรูปด้านล่าง
รูปที่ 1
ขอบเขตของบทความ
บทความนี้โฟกัสเรื่องการแก้ปัญหาพีซีที่รันด้วย Windows 10 Version 1607 (Anniversary Update) ไม่สามารถเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ได้ (ก่อนหน้านี้สามารถเชื่อมต่อได้) ในขณะที่อุปกรณ์อื่นยังสามารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ได้ตามปกติ
ขั้นตอนการตรวจสอบและแก้ไขเมื่อใช้ Wi-Fi บน Windows 10
ในสถานการณ์ที่คุณประสบปัญหาการใช้งาน Wi-Fi บน Windows 10 ไม่ได้ ให้คุณทำการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนดังนี้
ข้อควรทราบ: บทความนี้อ้างอิง Windows 10 Version 1607 (Anniversary Update)
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบสถานะการ์ด Wireless
ขั้นตอนแรกที่แนะนำให้ตรวจสอบเมื่อคุณประสบปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi คือการตรวจสอบสถานะการ์ด Wireless ตามขั้นตอนดังนี้
- คลิกขวาไอคอน Network บนแถบงาน แล้วคลิก Open Network and Sharing Center
- บนหน้า Network and Sharing Center คลิก Change adapter settings
ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่ามีการปิด (Disabled) การ์ด Wireless ให้ทำการเปิด (Enable) ให้เรียบร้อยโดยการคลิกขวาบนการ์ด Wireless แล้วเลือก Enable เสร็จแล้วให้พยายามทำการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi อีกครั้ง ถ้ายังใช้ไม่ได้ให้ทำขั้นตอนที่ 2
แต่ถ้าสถานะการ์ด Wireless เป็น Enabled (รูปที่ 2) ให้ทำการ Disable จากนั้นทำการ Enable การ์ด Wireless เสร็จแล้วให้พยายามทำการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi อีกครั้ง ถ้ายังใช้ไม่ได้ให้ทำขั้นตอนที่ 2
รูปที่ 2
ขั้นตอนที่ 2: อัปเดตการ์ด Wireless
ถ้าหากการ์ด Wireless เปิดตามปกติ (รูปที่ 2) แต่ทำการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ไม่ได้ ให้ทดลองทำการอัปเดตไดรฟ์เวอร์การ์ด Wireless ตามขั้นตอนดังนี้
!กรณีไม่ได้เก็บไดรฟ์เวอร์การ์ด Wireless ไว้บนเครื่องจะต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทาง LAN หรือใช้อุปกรณ์เก็บข้อมูล เช่น ยูเอสบีแฟลชไดรฟ์
1. คลิกขวา Start แล้วคลิก Control Panel จากนั้นคลิก System บนหน้า System คลิก Device Manager
ทิป: แป้นพิมพ์ลัดสำหรับเปิดหน้า System คือ WIN + Break
2. บนหน้า Device Manager ให้คลิกขยาย Network adapters จากนั้นคลิกขวาบนการ์ด Wireless แล้วเลือก Update Driver Software ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอจนแล้วเสร็จ
รูปที่ 3
หลังจากทำการอัปเดตไดรฟ์เวอร์การ์ด Wireless เสร็จแล้วให้พยายามทำการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi อีกครั้ง ถ้าหากยังเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ไม่ได้ ให้ทดลองทำการลบการ์ด Wireless เพื่อรีเซ็ตระบบใหม่โดยทำตามขั้นตอนที่ 1-2 ด้านบนแต่ในขั้นตอนที่ 2 ให้เลือก Uninstall เสร็จแล้วทำการเริ่มต้นระบบใหม่เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล
รูปที่ 4
หลังจากพีซีพร้อมใช้งาน (ตามปกติแล้ว Windows 10 จะทำการติดตั้งการ์ด Wireless ให้โดยอัตโนมัติ แต่ถ้าหากไม่เป็นไปตามที่กล่าวมาให้คุณทำตามขั้นตอนที่ 1-2 ด้านบน) ให้พยายามทำการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi อีกครั้ง ถ้ายังใช้ไม่ได้ให้ทำขั้นตอนที่ 3
รูปที่ 5
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบสถานะ WLAN Service
ถ้าหากทำตามขั้นตอนที่ 1 และ 2 แล้วยังไม่ได้ผลให้คุณทำการตรวจสอบสถานะการทำงานของ WLAN Service ตามขั้นตอนดังนี้
1. กดแป้นพิมพ์ Windows + R หรือคลิกขวาปุ่ม Start แล้วเลือก Run
2. พิมพ์ services.msc (ใช้ตัวใหญ่หรือตัวเล็กก็ได้ แต่ต้องป้อนนามสกุล .msc ด้วย) ในช่อง Open เสร็จแล้วคลิก OK หรือกดปุ่ม Enter
ทิป: สามารถรันจากแถบ Quick access ของ File Explorer ได้เช่นกัน
3. บนหน้าต่าง Services ให้ตรวจสอบสถานะของ WLAN AutoConfig ถ้าสถานะเป็น “Running” ให้ทำขั้นตอนที่ 4 แต่ถ้าสถานะเป็น Disabled ให้ทำตามข้อ 4.
รูปที่ 6
4. บนหน้าต่าง Services ให้ดับเบิลคลิก WLAN AutoConfig จากนั้นบนหน้า WLAN AutoConfig Properties (Local Computer) ในหัวข้อ Startup type ให้เลือกเป็น “Automatic” เสร็จแล้วคลิก Apply
รูปที่ 7
รูปที่ 8
5. [ยังอยู่บนบนหน้า WLAN AutoConfig Properties (Local Computer)] ภายใต้หัวข้อ Service status ให้คลิก Start เสร็จแล้วคลิก OK
รูปที่ 9
จากนั้นบนหน้าต่าง Services ให้ตรวจสอบว่าสถานะของ WLAN AutoConfig เป็น Running
รูปที่ 10
เมื่อคุณมาถึงขั้นตอนนี้ ถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด คุณสามารถคลิกไอคอน Wi-Fi บนแถบงานแล้วทำการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ที่ต้องการได้ตามปกติ (วิธีการใช้งานขึ้นอยู่กับระบบ Wi-Fi ที่คุณใช้ โดยบางระบบจะพร้อมท์ให้คุณป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน ในขณะที่บางระบบอาจสามารถใช้งานได้ทันที)
รูปที่ 11
รูปด้านล่างเป็นหน้า Wi-Fi settings หลังจากทำการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi สำเร็จแล้ว
รูปที่ 12
ขั้นตอนที่ 4: ตรวจสอบฮาร์ดแวร์
ถ้าหากคุณทำขั้นตอนที่ 1,2 และ 3 แล้วแต่ไม่ได้ผลอาจเป็นไปได้ว่าเป็นปัญหาที่ระบบฮาร์แวร์ของการ์ด Wireless หรือของเครื่องพีซี ในกรณีนี้คุณควรต้องติดต่อศูนย์บริการของหรือร้านซ่อมคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบในเชิงลึกต่อไปครับ
สรุป
กรณีที่คุณประสบปัญหาการเชื่อมต่อ Wi-Fi บน Windows 10 ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นใช้งานได้ปกติ ให้ทำการตรวจสอบให้แน่ใจว่า WLAN AutoConfig เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติและมีสถานะเป็น “Running” ตามขั้นตอนและวิธีการด้านบน แต่ถ้าทุกอย่างเป็นปกติแต่ยังไม่สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ มีความเป็นไปได้สูงว่าเกิดจากฮาร์ดแวร์เสียหรือมีปัญหาการทำงาน
ประวัติการปรับปรุง
24 กุมภาพันธ์ 2561: ปรับปรุงเนื้อหา
18 กุมภาพันธ์ 2560: เผยแพร่ครั้งแรก