12 ตุลาคม 2558: ไมโครซอฟท์ออก Windows 10 Insider Preview Build 10565 ให้ Insider ที่ตั้งค่าวงแหวนเป็น Fast* บิลด์ 10565 เป็นเวอร์ชันทดสอบตัวที่ 4 นับจากออก Windows 10 RTM (Build 10240) มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ สามารถเปิดใช้งาน (Activate) ด้วยหมายเลขผลิตภัณฑ์ Windows 7, Windows 8 หรือ Windows 8.1 ได้ นอกจากนี้ ยังเพิ่มคุณสมบัติใหม่และปรับปรุงการทำงานหลายอย่าง รวมถึงการแก้ไขบั๊กและข้อบกพร่องที่พบในบิลด์ก่อนหน้า
Browsing: Step by Step
ด้วยการปรับปรุงให้ใช้งานง่ายขึ้นและคุณสมบัติใหม่ที่น่าสนใจ บวกกับกลยุทธ์ ให้ผู้ใช้ Windows 7 และ 8.1 ของแท้อัปเกรดฟรี ทำให้ Windows 10 ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้ ทำให้ปัจจุบันมีอุปกรณ์ Windows 10 ถึง 110 ล้านเครื่องแล้ว* แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะชื่นชอบ Windows 10 และถ้าคุณอยู่ในกลุ่มดังกล่าวคุณสามารถดาวน์เกรดจาก Windows 10 ไปเป็น Windows 8.1 หรือ 7 ได้ตามขั้นตอนด้านล่างครับ
วันนี้ผมมีเคล็ดลับการลดขนาด Windows 10 Footprint ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ได้สูงสุด 2.6 GB มาฝากผู้ใช้ Windows 10 โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใช้งานอุปกรณ์ Windows 10 ที่ใช้ Solid-State Drive (SSD) ซึ่งมีพื้นที่เก็บข้อมูลจำกัด อย่างเช่น แล็ปท็อปและแท็บเล็ต เป็นต้น
วันนี้มีเคล็ดลับการปรับแต่งเมนูเริ่ม (Start menu) ของ Windows 10 ให้เปิดหรือทำงานเร็วขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้งานบนเครื่องพีซีหรือแท็บเล็ตที่ใช้ซีพียูไม่ค่อยแรงนักอย่างเช่น Intel Atom เป็นต้น ครับ
ดังที่ทราบกันว่าไมโครซอฟท์ได้ให้สถานศึกษาใช้บริการ Office 365 Education Plus* ได้ฟรี ทำให้นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา สามารถใช้บริการต่างๆ เช่น อีเมล และ OneDrive เป็นต้น ได้ และรวมถึงแอป Office ทั้งเวอร์ชันเว็บและเดสก์ท็อป แต่สำหรับแอป Office เดสก์ท็อปนั้นผู้ใช้จะต้องมีไลเซนส์ Office 365 ProPlus จึงจะเข้าถึงหน้าติดตั้งแอป Office เดสก์ท็อปได้ ซึ่งบทความนี้ผมจะสาธิตวิธีการทำงานดังกล่าวให้ได้ทราบกันครับ
ด้วยเหตุผลที่ต้องการลดภาระงานด้านการสนับสนุน ผมจึงใช้วิธีเปิดใช้งาน Microsoft Office 2013 ผ่านทาง Key Management Service (KMS) แบบเดียวกับการเปิดใช้งาน Windows จึงนำประสบการณ์ดังกล่าวนี้มาแบ่งปันเพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ดูแลระบบ (โดยเฉพาะมือใหม่) ที่ต้องการใช้ KMS ทำการเปิดใช้งาน Office 2013 ซึ่งรวมถึง Office 2016 ที่กำลังจะออกในวันที่ 22 กันยายน ที่จะถึงนี้ ครับ
ผมได้แนะนำให้ทราบไปแล้วว่า มีคุณสมบัติใหม่อะไรบ้างใน Hyper-V บน Windows 10 สำหรับตอนนี้ผมจะแนะนำวิธีการเปิดใช้งาน Hyper-V บน Windows 10 ให้ได้ทราบกันครับ
ผมได้แนะนำ การติดตั้ง KMS Host สำหรับใช้ในการเปิดใช้งาน (Activate) Windows 10 แบบโวลุ่มไลเซนส์ (Volume License) ไปแล้วก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม การใช้ KMS Host นั้นคุณจะต้องมีเครื่องพีซี Windows 10 จำนวน 25 เครื่องขึ้นไปจึงจะสามารถใช้งานได้ แต่ถ้าคุณมีไม่ถึง 25 เครื่อง คุณจะต้องทำการเปิดใช้งานโดยใช้ Multiple Activation Key (MAK) ซึ่งมีรายละเอียดและวิธีการใช้งานดังนี้ครับ
ผมมีเครื่องพีซีระบบ Windows อยู่ในความดูแลมากกว่า 100 เครื่องกระจายอยู่ใน 5 อาคาร และยังต้องติดตั้ง Windows ใหม่ค่อนข้างบ่อยจากเหตุผลต่างๆ นาๆ ทำให้ต้องทำการเปิดใช้งาน (Activate) Windows ใหม่เป็นประจำ ดังนั้นเพื่อลดภาระงาน (ให้ตัวเอง) ผมจึงใช้ Key Management Service (KMS) ในการเปิดใช้งาน Windows โดยอัตโนมัติ ซึ่งได้ผลที่น่าพอใจ เพราะปริมาณงานการเปิดใช้งาน Windows ลดลงอย่างมาก จึงคิดว่าน่าจะนำประสบการณ์ดังกล่าวนี้มาแบ่งปันเพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ดูแลระบบ (โดยเฉพาะมือใหม่) ในการใช้ KMS ทำการเปิดใช้งาน Windows ครับ
หลังอัปเกรด Windows 10 จาก Windows 8.1 ผมพบว่าพื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์หายไปประมาณ 30 GB ทั้งที่ตามสเปค Windows 10 รุ่น 64-บิตจะใช้ฮาร์ดดิสก์ประมาณ 20 GB เท่านั้น และเมื่อเปิดดูไดรฟ์ที่ติดตั้ง Windows พบว่ามีโฟลเดอร์ Windows.old เพิ่มขึ้นมา เมื่อเปิดดูคุณสมบัติของมันผม (คิดว่า) ได้ทราบสาเหตุที่พื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์หายไปเพราะว่ามันมีขนาดเกือบ 25 GB เลยทีเดียว จึงเกิดความสงสัยว่า Windows.old คือ อะไร มีไว้ทำไม ลบได้หรือไม่ ถ้าลบได้ต้องทำอย่างไร ซึ่งคำตอบมีดังนี้