มีอะไรใหม่ใน Windows Server 2016 Technical Preview 4

ก่อนหน้านี้ผมได้แนะนำวิธีการติดตั้ง Windows Server 2016 Technical Preview 4 ซึ่งออกเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2558 ไปแล้ว สำหรับในเรื่องนี้จะขอสรุปคุณสมบัติใหม่และการปรับปรุงการทำงานที่มีในเวอร์ชันดังกล่าวมาฝากครับ

มีอะไรใหม่ใน Windows Server 2016 Technical Preview 4
Windows Server 2016 Technical Preview 4 มีการเพิ่มคุณสมบัติใหม่และการปรับปรุงการทำงานหลายอย่าง โดยมีภาพรวมดังนี้

Nano Server
Nano Server มีโค้ดเนมว่า Tuva เป็นคุณสมบัติใหม่ป้ายแดงที่มีใน Windows Server 2016 เป็นครั้งแรก ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Nano Server ครั้งแรกใน Technical Preview 2 (ออกเมื่อ 4 พฤษภาคม 2558) ในทางเทคนิคมันเป็น Windows Server เวอร์ชันย่อยตัวหนึ่งคล้ายกับ Server Core แต่ว่ามี footprint เล็กกว่าประมาณ 20 เท่า และการติดตั้งและจัดการต้องทำจากระยะไกล (Remote) เท่านั้น ไม่มีระบบการลงชื่อเข้าหน้าเครื่อง (Local logon) และไม่รองรับ Terminal Services Nano Server ได้รับการออกแบบมาให้ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทำงานเร็วขึ้น และมีความปลอดภัยสูงสุด โดยที่ที่ต้องการแพตช์และปรับปรุงระบบน้อยที่สุด ไมโครซอฟท์อ้างว่า ฮาร์ดดิสก์เสมือน (VHD) มีขนาดเล็กลง 93% ความต้องการการแพตช์และปรับปรุงความปลอดภัยลดลง 92% การรีบูทระบบทำงานเร็วขึ้น 80% โดย Nano Server เหมาะสำสำหรับรูปแบบการใช้งานดังนี้

• Born-in-the-cloud applications รองรับการเขียนโปรแกรมได้หลากหลายภาษา เช่่น C#, Java, Node.js, Python เป็นต้น และทำงานได้บน containers, คอมพิวเตอร์เสมือน หรือเครื่องคอมพิวเตอร์จริง
• Microsoft Cloud Platform infrastructure รองรับ compute clusters บน Hyper-V และstorage clusters บน Scale-out File Server

ใน Technical Preview 4 นั้น Nano Server สามารถรองรับหน้าที่ DNS Server และ IIS server, MPIO, VMM, SCOM, DSC push mode, DCB, Windows Server Installer และ WMI provider for Windows Update และ Recovery Console ของ Nano Server รองรับการแก้ไขและซ่อมแซมการตั้งค่าเครือข่าย และมีโมดูล Windows PowerShell สำหรับช่วยสร้างอิมเมจ Nano Server

Windows Containers
Windows Server 2016 จะมีคุณสมบัติใหม่ที่เรียกว่า Windows Containers ซึ่งเทคโนโลยี Container นั้นเป็นวิธีการใหม่ในการลดความซับซ้อนในการพัฒนาและปรับใช้อแปพลิเคชัน โดย Windows Containers นั้นมี 2 แบบ คือ Windows Server Containers และ Hyper-V Containers

ใน Technical Preview 4 นี้จะเป็นการเปิดตัว Hyper-V Containers เป็นครั้งแรก โดยมันสามารถใช้แยกรันแอปพลิเคชันบนระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้แอปพลิเคชันทำงานเร็วขึ้น ปรับขยายขนาดได้ตามความต้องการ และสามารถย้ายระบบได้ ส่วน Windows Server Containers นั้นได้เปิดตัวครั้งแรกใน Technical Preview 3 ไปแล้วก่อนหน้านี้

แม้ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Container เหมือนกัน แต่ 2 ตัวนี้มีวิธีการทำงานแตกต่าง โดย Windows Server Containers จะใช้การแยกแอปพลิเคชันด้วย namespace และ process ส่วน Hyper-V Containers จะใช้การแยกแอปพลิเคชันด้วยการ encapsulate แต่ละ container ในคอมพิวเตอร์เสมือนขนาดเล็ก

Active Directory Domain Services (AD DS)
ปรับปรุง AD DS ในด้านการรักษาความปลอดภัยระบบ Active Directory และจัดเตรียมการจัดการ Identity ที่ดีขึ้นสำหรับอุปกรณ์ที่เป็นขององค์กรและของส่วนตัวที่ผู้ใช้นำมาเอง

Active Directory Federation Services (AD FS)
AD FS เพิ่มความสามารถใหม่ที่อนุญาตให้สามารถตั้งค่า AD FS เพื่อทำการ authenticate ผู้ใช้ที่เก็บอยู่ในไดเร็กตอรี่ Lightweight Directory Access Protocol (LDAP) ได้

Failover Clustering
ปรับปรุงระบบคลัสเตอร์ Hyper-V หรือ Scale-out File Server ให้สามารถทำการอัปเกรดได้โดยไม่ต้องปิดระบบหรือทำการสร้างคลัสเตอร์ใหม่กับโหนดที่รันด้วย Windows Server 2016 Technical Preview

Hyper-V
Hyper-V ใน Technical Preview 4 อนุญาตให้ทำการเพิ่มหรือลบอะแดปเตอร์เครือข่าย และปรับขนาดหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual Machine) ได้แบบสดโดยไม่ต้องปิดเครื่อง, เพิ่มการรองรับสถานะพลังงานแบบ Connected Standby เมื่อใช้งานบนคอมพิวเตอร์แบบ Always On/Always Connected (AOAC) เป็นต้น

Windows Defender
Technical Preview 4 จะติดตั้งและเปิดใช้งานโปรแกรม Windows Server Antimalware ตั้งแต่เริ่มต้น โดยโปรแกรมดังกล่าวนี้สามารถทำการอัปเดต antimalware definitions และปกป้องระบบโดยไม่ต้องใช้ User Interface (UI) ดังนั้นจึงไม่ได้ติดตั้ง UI ตั้งแต่เริ่มต้น อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้สามารถทำการติดตั้ง UI เพิ่มได้จากการ Add Roles and Features ด้วย Server Manager

Remote Desktop Services
เพิ่มการรองรับแอปพลิเคชันประเภท OpenGL และ OpenCL และเพิ่มฟังก์ชัน MultiPoint Services เข้าเป็นหน้าที่ใหม่ (Role) ใน Windows Server

MultiPoint Services มีลักษณะการทำงานแบบเดียวกันกับ Windows MultiPoint Server ตั้งแต่เริ่มต้นนั้นมันถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับใช้ในสถาบันการศึกษา เช่นในห้องเรียน ห้องสมุด เป็นต้น แนวคิดของ MultiPoint คือผู้ใช้สามารถใช้งานโฮสต์เครื่องเดียวได้พร้อมกันหลายคนและอย่างอิสระต่อกัน โดยผู้ใช้แต่ละคนจะมี MultiPoint client เม้าส์ แป้นพิมพ์ และหน้าจอของตนเอง โดย MultiPoint client เชื่อมต่อกับโฮสต์ผ่านทางยูเอสบีหรือเครือข่าย (LAN) MultiPoint MultiPoint วัตถุประสงค์หลังของเทคโนโลยีนี้คือลดงบประมาณด้านฮาร์ดแวร์

File and Storage Services
ปรับปรุง Quality of Service (QoS) ของ Storage เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างนโยบาย Storage QoS บน Scale-Out File Server และมอบหมายนโยบายที่สร้างขึ้นนั้นให้กับดิสก์เสมือนของคอมพิวเตอร์เสมือนบน Hyper-V เพิ่มนโยบาย Storage Replica ซึ่งอนุญาตให้ทำการเรพลิเคทข้อมูลแบบซิงโครนัสระหว่างเซิร์ฟเวอร์สำหรับการทำ Disaster Recovery, และทำการขยาย Failover Cluster สำหรับทำระบบ High Availability ได้

Web Application Proxy
เพิ่มคุณสมบัติใหม่ที่ช่วยให้ Publishing และ Preauthentication แอปพลิเคชันได้ง่ายขึ้น เช่น

• wildcard domains ที่ช่วยให้การเผยแพร่แอป SharePoint ง่ายขึ้น
• Preauthentication for HTTP Basic application publishing ทำให้แอป HTTP (เช่น Exchange ActiveSync)
• HTTP to HTTPS redirection ทำให้แน่ใจได้ว่าผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอปได้แม้ไม่ได้ป้อน https ในช่อง url
• HTTP Publishing สามารถเผยแพร่แอปพลิเคชัน HTTP โดยใช้ pass-through preauthentication ได้
• การเผยแพร่แอป Remote Desktop Gateway
• ถ่ายถอดที่อยู่ไอพีของลูกข่ายให้แบ็กเอนด์แอปพลิเคชัน
• ปรับปรุงระบบ UI ของ Administrator Console

Windows console
ปรับปรุงโฮสต์ Console (Conhost.exe) โดยการเพิ่มฟังก์ชันใหม่ในคอมมานด์พร้อมท์ของ Windows, Windows PowerShell และแอปพลิเคชัน character-mode ต่างๆ

• ฟังก์ชัน Console แบบใหม่ทำงานตั้งแต่เริ่มต้น
• หน้าต่าง Console สามารถปรับขนาดแบบไดนามิกด้วยเม้าส์
• โหมด Quick Edit เปิดทำงานตั้งแต่เริ่มต้น
• แป้นพิมพ์ลัดใหม่สำหรับ Copy, Paste, และการเรียกดู History
• หน้าต่าง Console ใหม่ใช้ฟอนท์ชนิด TrueType เป็นค่าเริ่มต้น

โดยเริ่มต้นเมื่อปรับขนาดหน้าต่าง Console ระบบจะทำการปรับการแสดงผลและทำการขึ้นบรรทัดใหม่โดยอันโนมัติ

Windows PowerShell 5.0
PowerShell 5.0 ใน Technical Preview 4 มีคุณสมบัติใหม่เพิ่มขึ้นหลายอย่าง โดยที่เป็นไฮไลท์ เช่น รองรับการพัฒนาด้วย classes, เพิ่มคุณสมบัติใหม่ในด้านความปลอดภัย และสามารถควบคุมและจัดการสภาพแวดล้อม Windows-based ได้ง่ายขึ้นและครอบคลุมมากขึ้น ปรับปรุง cmdlet New-Item, Remove-Item และ Get-ChildItem และอื่นๆ เพิ่ม cmdlet ใหม่หลายตัว เช่น ConvertFrom-String, Convert-String, Format-Hex, Clear-RecycleBin เป็นต้น และอัปเดตค่า $PSVersionTable.PSVersion เป็น 5.0.

Networking
Networking เป็นพื้นฐานของแพล็ตฟอร์ม Software Defined Datacenter (SDDC) ซึ่ง Windows Server 2016 มีเทคโนโลยี Software Defined Networking (SDN) สำหรับใช้เป็นโซลูชั่น SDDC โดยใน Technical Preview 4 มาพร้อมคุณสมบัติใหม่หรือการปรับปรุงดังต่อไปนี้

• Network Controller
• Hyper-V Virtual Switch
• Network Function Virtualization (NFV)
• Standardized Protocols
• Flexible encapsulation technologies

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ What’s New in Windows Server 2016 Technical Preview 4

แหล่งข้อมูล
Announcing the release of Hyper-V Containers in Windows Server 2016 Technical Preview 4
What’s new in Windows Server 2016 and System Center 2016 Technical Preview 3
What’s new in Windows Server 2016 Technical Preview 2
Announcing availability of Windows Server Technical Preview and System Center Technical Preview
Announcing the MultiPoint Services Role in Window Server vNext Technical Preview