บางครั้งผู้ใช้ Windows 10 อาจประสบปัญหาในการเข้าถึงแชร์โฟลเดอร์ (Shared Folder) ที่แชร์จาก Windows หรือ Windows Server รุ่นเก่า โดยมีรายละเอียดปัญหาและแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังนี้
ปัญหา Windows 10 เข้าแชร์โฟลเดอร์ไม่ได้
ปัญหาคือเมื่อผู้ใช้ Windows 10 พยายามเข้าถึงแชร์โฟลเดอร์บน Windows Server เวอร์ชันที่ใช้โปรโตคอล SMB 1.0 ซึ่งเป็นโปรโตคอลรุ่นเก่า จะไม่สามารถเข้าได้โดยจะได้รับแจ้งข้อความผิดพลาดตามรายละเอียดด้านล่าง
You can’t connect to the file share because it’s not secure. This share requires the obsolete SMB1 protocol, which is unsafe and could expose your system to attack. Your system requires SMB2 or higher.
ด้านล่างเป็นหน้าข้อความผิดพลาดที่ได้รับ
สาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้ Windows 10 เข้าแชร์โฟลเดอร์ที่ใช้โปรโตคอล SMB 1.0 ไม่ได้ เนื่องจากมันเป็นเวอร์ชันเก่าที่มีช่องโหว่ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลระบบรั่วไหลได้ ไมโครซอฟท์จึงไม่ได้ติดตั้ง SMB 1.0/CIFS client มาให้ตั้งแต่เริ่มต้นบน Windows 10 บางเวอร์ชัน
วิธีแก้ปัญหา Windows 10 เข้าแชร์โฟลเดอร์ไม่ได้
ผู้ใช้ Windows 10 ที่มีปัญหาในการเข้าแชร์โฟลเดอร์ตามรายละเอียดด้านบน สามารถทำการแก้ไขโดยการเปิดใช้ SMB 1.0/CIFS client ตามขั้นตอนดังนี้
1. เลือกทำข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
- ใช้ File Explorer เปิดไปที่ Control Panel\All Control Panel Items\Programs and Features จากนั้นคลิก Turn Windows Features on or off แล้วข้ามไปทำข้อที่ 4
- คลิก Start จากนั้นคลิก Settings
2. บนหน้า Settings คลิก Apps
3. บนหน้า Apps คลิก Apps & features จากเมนูด้านซ้ายมือ จากนั้นคลิก Programs and features ที่อยู่ภายใต้หัวข้อ Related settings
4. บนหน้า Windows Features ในหัวข้อ SMB 1.0/CIFS File Sharing Support ให้เลือก SMB 1.0/CIFS client เสร็จแล้วคลิก OK
5. รอจนขึ้นขอความ Windows completed the requested changes. แล้วคลิก Close จากนั้นทำการรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้การติดตั้งเสร็จสมบูรณ์
ผลการทำงาน
หลังจากทำการติดตั้ง SMB 1.0/CIFS client และรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์เสร็จเรียบร้อย จากนั้นสามารถเข้าถึงแชร์โฟลเดอร์บน Windows Server รุ่นเก่าได้อย่างไม่มีปัญหา
ข้อมูลระบบ
ระบบซอฟต์แวร์ที่ใช้อ้างอิงในบทความนี้
- Windows 10 Pro เวอร์ชัน 1709 (Redstone 3)
- ต้องใช้สิทธิ์ระดับผู้ดูแลระบบ (Administrator) ในการติดตั้ง
แหล่งอ้างอิง
Microsoft
ประวัติการปรับปรุงบทความ
15 มิถุนายน 2562: เผยแพร่ครั้งแรก