Close Menu
  • Home
  • Articles
  • About
    • Sitemap
  • Privacy Policy
Facebook X (Twitter) Instagram
Trending
  • ย้ายตำแหน่ง Windows 11 Taskbar ไปอยู่ด้านซ้ายมือ
  • แก้ไขปัญหาไม่มี New Word Doc เมื่อเมนู Right click
  • รีวิว MAKITA DTD157 ไขควงกระแทกไร้สาย: ตัวเล็ก น้ำหนักเบา ตอบโจทย์งาน DIY
  • การลงทะเบียนสินค้ามากีต้า (Makita) ประเทศไทย
  • Panasonic eneloop (AA) 1.2V 1900 mAh แพงกว่า แล้วคุ้มไหม
  • แนวทางการเลือกซื้อสว่านไร้สายและไขควงไร้สายสำหรับงาน DIY
  • รีวิว Makita DHP486 สว่านไร้สาย 3 ระบบ – เจาะ ไม้/เหล็ก/ปูน & ขันสกรู
  • XTAR VC4 ราคาหลักร้อย ชาร์จแบตเตอรี่พร้อมกัน 4 ก้อน
Facebook X (Twitter) Instagram
SARANITUS
  • Home
  • Articles
  • About
    • Sitemap
  • Privacy Policy
SARANITUS
How-to

การตั้งค่า Windows Server 2012 R2 ด้วย Server Configuration tool (Sconfig.cmd)

DefiniBy DefiniJune 19, 2014No Comments3 Mins Read

ก่อนหน้านี้ผมได้แนะนำวิธี การติดตั้ง Windows Server 2012 R2 Server Core ซึ่งในการติดตั้งนั้นจะใช้ค่าที่กำหนดให้โดยปริยาย ดังนั้นก่อนที่จะนำไปใช้งานจริงเราจะต้องทำการปรับแต่งค่าต่างๆ เช่น ชื่อคอมพิวเตอร์ (Computer Name) หมายเลขที่อยู่ไอพี (IP Address) หรือ กลุ่มงาน (Workgroup) เป็นต้น ให้เป็นค่าที่เหมาะสมกับระบบที่ใช้งานจริง สำหรับการตั้งค่านั้นสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน แต่วิธีการที่ง่ายและสะดวกที่สุดคือการใช้ Server Configuration tool (Sconfig.cmd) ซึ่งเป็นเครื่องมือแบบเมนูคำสั่งที่ไมโครซอฟท์จัดเตรียมไว้ให้ผู้ดูแลระบบใช้งานในการตั้งค่า Server Core เป็นการเฉพาะครับ

วิธีการเรียกใช้งาน Server Configuration tool
สำหรับการเรียกใช้งาน Server Configuration tool นั้นทำได้โดยจากหน้าต่างคอมมานด์พร้อมท์ให้ทำการรันคำสั่ง SCONFIG.CMD จากนั้นจะได้หน้าต่าง Server Configuration ดังรูปที่ 1

รูปที่ 1

1. การเข้าเป็นสมาชิก Workgroup
การติดตั้ง Windows Server 2012 Server Core นั้นจะกำหนดให้เป็นสมาชิกกลุ่มงานชื่อ “WORKGROUP” โดยปริยาย แต่เราสามารถทำการเปลี่ยนไปเป็นสมาชิกกลุ่มงานที่ต้องการได้จากบนหน้า Server Configuration ดังรูปที่ 1 โดยดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ (ดูรูปที่ 2 ประกอบ)

ขั้นตอนที่ 1: กดปุ่มเลข 1 เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter

ขั้นตอนที่ 2: กดปุ่ม W เพื่อเลือกการเข้าร่วมกลุ่มงาน (Workgroup)

ขั้นตอนที่ 3: ป้อนชื่อกลุ่มงานที่ต้องการเสร็จแล้วกดปุ่ม Enter ในที่นี้คือ SERVERCORE

ขั้นตอนที่ 4: คลิกปุ่ม OK บนหน้าไดอะล็อก Welcome to workgroup: [ชื่อกลุ่มงาน]

รูปที่ 2

2. การเปลียนชื่อ Computer Name
การติดตั้ง Windows Server 2012 Server Core นั้นจะกำหนดตั้งชื่อเซิร์ฟเวอร์ให้แบบสุ่ม สำหรับวิธีการเปลี่ยนชื่อเซิร์ฟเวอร์นั้นทำได้จากบนหน้า Server Configuration ดังรูปที่ 1 โดยดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ (ดูรูปที่ 3 ประกอบ)

ขั้นตอนที่ 1: กดปุ่มเลข 2 เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter

ขั้นตอนที่ 2: ป้อนชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการเสร็จแล้วกดปุ่ม Enter ในที่นี้คือ SERVER01

ขั้นตอนที่ 3: คลิกปุ่ม OK บนหน้าไดอะล็อก Welcome to workgroup: [ชื่อคอมพิวเตอร์]

รูปที่ 3

3. การตั้งค่าระบบ Network Settings
การติดตั้ง Windows Server 2012 Server Core นั้นจะทำการตั้งค่าระบบเครือข่ายผ่านทาง DHCP เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเราสามารถทำการตั้งค่าเอง (เช่น หมายเลขที่อยู่ไอพี) ได้จากหน้า Server Configuration ดังรูปที่ 1

การแสดงการตั้งค่าระบบ Network (ดูรูปที่ 4 ประกอบ)

ขั้นตอนแรกให้ตรวจสอบการตั้งค่าปัจจุบัน ให้ดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1: กดปุ่มเลข 8 เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter

ขั้นตอนที่ 2: บนหน้า Available Network Adapters ให้กดปุ่มหมายเลขอินเด็กซ์ของการ์คเครือข่ายที่ต้องการ ในที่นี้คือ 10 เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter

รูปที่ 4

 

รูปที่ 5

การตั้งค่า IP Address (ดูรูปที่ 6 ประกอบ)

การตั้งค่าหมายเลขที่อยู่ไอพี ให้ดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1: บนหน้า Network Adapter Settings กดปุ่มเลข 1 (รูปที่ 6) เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter

ขั้นตอนที่ 2: กดปุ่ม S เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter เพื่อเลือกตั้งค่าหมายเลขที่อยู่ไอพีแบบสเตติค

ขั้นตอนที่ 3: ป้อนหมายเลขที่อยู่ไอพีที่ต้องการเสร็จแล้วกดปุ่ม Enter

ขั้นตอนที่ 4: ป้อนหมายเลขซัพเน็ตมาสก์ (Subnet Mask) เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter (ข้อนี้หากใช้ค่าซัพเน็ตมาสก์ปริยายให้กดปุ่ม Enter ได้เลย)

ขั้นตอนที่ 5: ป้อนหมายเลขที่อยู่ไอพีของเกตเวย์ปริยาย (Default Gateway) เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter

รูปที่ 6

การตั้งค่า DNS Server (ดูรูปที่ 7 ประกอบ)

การตั้งค่า DNS เซิร์ฟเวอร์ให้ดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1: บนหน้า Network Adapter Settings (รูปที่ 7) กดปุ่มเลข 2 เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter

ขั้นตอนที่ 2: ป้อนหมายเลขที่อยู่ไอพีของดีเอนเอสเซิร์ฟเวอร์ (DNS Server) เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter

ขั้นตอนที่ 3: คลิกปุ่ม OK บนหน้าไดอะล็อก Network Settings

ขั้นตอนที่ 4: ป้อนหมายเลขที่อยู่ไอพีของดีเอนเอสเซิร์ฟเวอร์สำรอง (Alternate DNS Server) ถ้ามี เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter หรือกดปุ่ม Enter หากไม่มีดีเอนเอสเซิร์ฟเวอร์สำรอง

รูปที่ 7

การกลับไปยัง Main Menu (ดูรูปที่ 7 ประกอบ)

หลังจากทำการตั้งค่าระบบเครือข่ายเสร็จแล้ว ให้ทำการตรวจสอบความถูกต้องของการตั้งค่าในหัวข้อต่างๆ และทำการแก้ไขให้ถูกต้องถ้าหากมีข้อผิดพลาด เสร็จแล้วกดปุ่มเลข 4 (รูปที่ 7) เพื่อกลับไปยังหน้าเมนูหลัก

4. การตั้งค่า Date and Time
การตั้งค่าเวลาและวันที่ให้กับเซิร์ฟเวอร์ทำได้จากหน้า Server Configuration ดังรูปที่ 1 โดยให้เนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ (ดูรูปที่ 8 ประกอบ)

ขั้นตอนที่ 1: กดปุ่มเลข 9 เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter

ขั้นตอนที่ 2: บนหน้าไดอะล็อก Date and Time ให้ทำการตั้งโซนเวลา (Time Zone) และวันที่ (Date) ให้ตรงกับเวลาจริง เสร็จแล้วกดปุ่ม OK

รูปที่ 8

5. การ Restart Server เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล
การตั้งค่าบ่างอย่าง เช่น การเปลี่ยนชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์จะต้องทำการเริ่มต้นเครื่องเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้การตั้งค่ามีผลการทำงาน โดยจากหน้า Server Configuration ดังรูปที่ 1 ให้เนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ (ดูรูปที่ 9 ประกอบ)

ขั้นตอนที่ 1: กดปุ่มเลข 13 เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter

ขั้นตอนที่ 2: คลิกปุ่ม Yes บนหน้าไดอะล็อก Restart เพื่อทำการเริ่มต้นเซิร์ฟเวอร์ แล้วรอจนการทำงานแล้วเสร็จ

รูปที่ 9

การตรวจสอบการตั้งค่า Windows Server 2012 R2 Server Core
สำหรับขั้นตอนนี้เป็นการรีเช็คการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์เพื่อความถูกต้องครับ โดยหลังจากเซิร์ฟเวอร์พร้อมใช้งานให้ทำการลงชื่อเข้า (Sign in) ระบบตามปกติ จากนั้นบนหน้าต่างคอมมานด์พร้อมท์ให้ทำการรันคำสั่ง SCONFIG.EXE อีกครั้ง จากนั้นให้ทำการตรวจสอบความถูกต้องของการตั้งค่าต่างๆ อีกครั้ง ถ้าหากมีข้อผิดพลาดให้ทำการแก้ไขให้ถูกต้อง

ทั้งหมดนี้เป็นการตั้งค่าระบบ Windows Server 2012 Server Core เบื้องต้นด้วย Server Configuration tool (SCONFIG.CMD) ซึ่งหลังจากทำการตั้งค่าต่างๆ เสร็จแล้วเราสามารถทำการเพิ่มบทบาทและหน้าที่ (Roles and Features) ให้กับเซิร์ฟเวอร์และนำไปใช้งานตามแผนที่วางไว้ต่อไป สำหรับท่านใดที่วางแผนไว้ว่าจะทำการติดตั้ง Hyper-V เพื่อใช้ทำระบบคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual machine) สามารถเข้าไปอ่านวิธีการทำได้ ที่นี่ ครับ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Microsoft
Technet

How-to Microsoft Operating System Step by Step System Administrator Tips Tutorials Windows Server 2012
Defini

Related Posts

ทดสอบแอปด้วย Sandbox บน Windows 10 เวอร์ชัน 1903

September 26, 2019

การเปิดหรือปิดการซิงค์ OneDrive บน Windows 10 เมื่อใช้ Metered connection

September 26, 2019

การใช้งาน OneDrive Basic หรือ Personal และ Business บน Windows 10 เครื่องเดียวกัน

September 25, 2019

Comments are closed.

Recent Posts
  • ย้ายตำแหน่ง Windows 11 Taskbar ไปอยู่ด้านซ้ายมือ
  • แก้ไขปัญหาไม่มี New Word Doc เมื่อเมนู Right click
  • รีวิว MAKITA DTD157 ไขควงกระแทกไร้สาย: ตัวเล็ก น้ำหนักเบา ตอบโจทย์งาน DIY
  • การลงทะเบียนสินค้ามากีต้า (Makita) ประเทศไทย
  • Panasonic eneloop (AA) 1.2V 1900 mAh แพงกว่า แล้วคุ้มไหม
Ads
Tags
Android Apps Battery Cloud Download Firefox Google Play How-to Hyper-V Internet Explorer IoT Microsoft MS Office & Office 365 OneDrive Operating System PowerShell Server Core Smartphone Step by Step System Administrator Tips Tutorials Virtualization Virtual Machine Windows 7 8 8.1 Windows 10 Windows Insider Windows Server 2012 Windows Server 2016
บทความล่าสุด
  • ย้ายตำแหน่ง Windows 11 Taskbar ไปอยู่ด้านซ้ายมือ
  • แก้ไขปัญหาไม่มี New Word Doc เมื่อเมนู Right click
  • รีวิว MAKITA DTD157 ไขควงกระแทกไร้สาย: ตัวเล็ก น้ำหนักเบา ตอบโจทย์งาน DIY
  • การลงทะเบียนสินค้ามากีต้า (Makita) ประเทศไทย
  • Panasonic eneloop (AA) 1.2V 1900 mAh แพงกว่า แล้วคุ้มไหม
Facebook X (Twitter) Instagram YouTube
  • Home
  • Articles
  • About
    • Sitemap
  • Privacy Policy
© 2025 SARANITUS. All Rights Reserved.

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.