Close Menu
  • Home
  • Articles
  • About
    • Sitemap
  • Privacy Policy
Facebook X (Twitter) Instagram
Trending
  • ย้ายตำแหน่ง Windows 11 Taskbar ไปอยู่ด้านซ้ายมือ
  • แก้ไขปัญหาไม่มี New Word Doc เมื่อเมนู Right click
  • รีวิว MAKITA DTD157 ไขควงกระแทกไร้สาย: ตัวเล็ก น้ำหนักเบา ตอบโจทย์งาน DIY
  • การลงทะเบียนสินค้ามากีต้า (Makita) ประเทศไทย
  • Panasonic eneloop (AA) 1.2V 1900 mAh แพงกว่า แล้วคุ้มไหม
  • แนวทางการเลือกซื้อสว่านไร้สายและไขควงไร้สายสำหรับงาน DIY
  • รีวิว Makita DHP486 สว่านไร้สาย 3 ระบบ – เจาะ ไม้/เหล็ก/ปูน & ขันสกรู
  • XTAR VC4 ราคาหลักร้อย ชาร์จแบตเตอรี่พร้อมกัน 4 ก้อน
Facebook X (Twitter) Instagram
SARANITUS
  • Home
  • Articles
  • About
    • Sitemap
  • Privacy Policy
SARANITUS
How-to

วิธีดู Uptime ของ Windows

DefiniBy DefiniMarch 17, 2016No Comments3 Mins Read

การดู Uptime หรือระยะเวลาเปิดใช้งาน Windows ว่าเปิดมาเป็นเวลานานเท่าใดแล้ว หรือการดูเวลาที่เปิดหรือเริ่มต้นระบบใหม่ (Restart) ครั้งล่าสุดเมื่อใด สามารถทำได้หลายวิธีโดยใช้เครื่องมือที่มีมาพร้อม (ในตัว) Windows และใช้โปรแกรมเสริม บทความนี้ผมรวบรวมมาฝาก 6 วิธีด้วยกันตามรายละเอียดด้นล่างครับ

การดู Uptime ของ Windows
วิธีที่ 1-4 เป็นการดู Uptime ของ Windows โดยใช้เครื่องมือที่มีมาพร้อม Windows ครับ

บทความนี้ใช้ Windows 10 เป็นระบบอ้างอิง

วิธีที่ 1 ใช้ Systeminfo.exe
Systeminfo.exe หรือ System Information เป็นเครื่องมือแบบบรรทัดคำสั่งสำหรับใช้แสดงรายละเอียดข้อมูลระบบทั้งด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ สามารถใช้แสดง Uptime ของ Windows ได้โดยรันคำสั่งที่หน้าคอมมานด์พร้อมท์* ดังนี้

systeminfo.exe | find “System Boot Time:”

หมายเหตุ: ใช้ตัวใหญ่หรือตัวเล็กก็ได้ ส่วนนามสกุล ”exe” ไม่ต้องใส่ก็ได้ครับ

Systeminfo.exe จะแสดงวันที่และเวลาที่ทำการเปิดหรือบูท Windows ครั้งล่าสุด ในรูปแบบ เดือน / วันที่ / ปี ค.ศ., ชั่วโมง:นาที:วินาที (ถ้าต้องการรู้ว่าเปิดมานานเท่าใด-คุณต้องคำนวณเองครับ) ดังรูปที่ 1

รูปที่ 1

วิธีที่ 2 ใช้ Net.exe
Net.exe เป็นเครื่องมือแบบบรรทัดคำสั่งสำหรับใช้งานหลากหลายลักษณะ เช่น จัดการบัญชีผู้ใช้ จัดการเครื่องคอมพิวเตอร์ ใช้แมปไดรฟ์เครือข่าย และยังใช้แสดง Uptime ของ Windows ได้เช่นกันโดยการรันคำสั่งที่หน้าคอมมานด์พร้อมท์* ดังนี้

net statistics server

อ่านวิธีใช้คำสั่ง Net.exe ได้ที่ https://technet.microsoft.com/en-us/library/bb490698.aspx

Net.exe จะแสดงวันที่และเวลาที่ทำการเปิดหรือบูท Windows ครั้งล่าสุด ในรูปแบบ เดือน / วันที่ / ปี ค.ศ. ชั่วโมง:นาที:วินาที (ถ้าต้องการรู้ว่าเปิดมานานเท่าใด-คุณต้องคำนวณเองครับ) ดังรูปที่ 2

รูปที่ 2

วิธีที่ 3 ใช้ Windows Management Instrumentation Command-line (WMIC)
WMIC เป็นเครื่องมือแบบบรรทัดคำสั่งและสคริปต์สำหรับใช้จัดการระบบ Windows ผ่านทาง Windows Management Instrumentation (WMI) และยังใช้แสดง Uptime ของ Windows ได้เช่นกันโดยการรันคำสั่งที่หน้าคอมมานด์พร้อมท์* ดังนี้

wmic os get lastbootuptime

WMIC จะแสดงวันที่และเวลาเปิดหรือบูท Windows ครั้งล่าสุด ในรูปแบบ ปี ค.ศ. เดือนวันที่ชั่วโมงนาทีวินาที ดังรูปที่ 3 โดย 20160317073100 หมายถึง ปี 2016 เดือนมีนาคม วันที่ 17 เวลา 07:31:00 น. (ถ้าต้องการรู้ว่าเปิดมานานเท่าใด-คุณต้องคำนวณเองครับ)

รูปที่ 3

วิธีที่ 4 ใช้ Task Manager
Task Manager เป็นเครื่องมือกราฟิกสำหรับใช้แสดงรายละเอียดการทำงานของระบบ รวมถึงข้อมูล Uptime ของ Windows ซึ่งทำได้ตามขั้นตอนดังนี้

4.1 Windows 8.1 หรือใหม่กว่า
1. กดปุ่ม Windows + X หรือคลิกขวาบนแถบงาน (Taskbar) จากนั้นเลือก Task Manager
2. บนหน้า Task Manager คลิกแท็บ Performance

  • กรณีไม่มีแท็บ Performance ให้คลิก More details จากนั้นจึงคลิกแท็บ Performance

3. บนหน้า Task Manager ให้คลิกหัวข้อ CPU

4.2 Windows 7 หรือเก่ากว่า
1. คลิกขวาบนแถบงาน (Taskbar) จากนั้นเลือก Start Task Manager
2. บนหน้า Task Manager คลิกแท็บ Performance

ทิป: แป้นพิมพ์ลัดสำหรับเปิด Task Manager คือ Ctrl + Shift + ESC

Task Manager จะแสดง Up time นับจากการเปิดหรือบูท Windows ครั้งล่าสุด (ถ้าต้องการรู้วันที่ที่เปิดเครื่อง-คุณต้องคำนวณเองครับ) ดังรูปที่ 4

รูปที่ 4

วิธีที่ 5-6 เป็นการดู Uptime ของ Windows โดยใช้เครื่องมือเสริมซึ่งต้องดาวน์โหลดเอง ครับ

วิธีที่ 5: ใช้โปรแกรม Uptime.exe
Uptime เป็นโปรแกรมเป็นเครื่องมือแบบบรรทัดคำสั่งที่ไมโครซอฟท์พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือและความพร้อมใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมถึงการดูเวลาทำงานของ Windows การใช้โปรแกรม Uptime.exe** มีขั้นตอนดังนี้

1. ดาวน์โหลดโปรแกรม Uptime จากเว็บไซต์ http://support.microsoft.com/kb/232243 จะได้ไฟล์ Uptime.1.1.zip
2. ทำการแตกไฟล์ Uptime.1.1.zip ลงในโฟลเดอร์ที่ใช้งานสะดวก ตัวอย่างเช่น C:\SARANITUS
3. เปิดคอมมานด์พร้อมท์* จากนั้นเปลี่ยนไปยังโฟลเดอร์ที่เก็บโปรแกรม Uptime.exe (ตัวอย่างนี้ คือ C:\SARANITUS) จากนั้นรันคำสั่ง Uptime.exe

Uptime.exe จะแสดงเวลาปัจจุบัน (ในตัวอย่างนี้คือ 04:45:15) และเวลาที่เปิดหรือบูท Windows ครั้งล่าสุดในรูปแบบ days – hours – minutes – seconds ตัวอย่างนี้ (รูปที่ 5) คือ 01: 14:14 หมายความว่าเปิดมาเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง 14 นาที 14 วินาที (ถ้าต้องการรู้วันที่ที่เปิดเครื่อง-คุณต้องคำนวณเองครับ) ดังรูปที่ 5

รูปที่ 5

วิธีที่ 6: ใช้ PsInfo.exe
PsInfo.exe เป็นเครื่องมือแบบบรรทัดคำสั่งสำหรับใช้ดูข้อมูลระบบและองค์ประกอบต่างๆ ของ Windows เช่น เวอร์ชัน Kernel, ข้อมูลการลงทะเบียนและเจ้าของเครื่อง, จำนวนซีพียู, จำนวนหน่วยความจำ รวมถึง Uptime ของ Windows การใช้โปรแกรม PsInfo.exe มีขั้นตอนดังนี้

1. ดาวน์โหลดโปรแกรม PsInfo จากเว็บไซต์ https://technet.microsoft.com/en-us/sysinternals/psinfo จะได้ไฟล์ PsTools.zip
2. ทำการแตกไฟล์ PsTools.zip ลงในโฟลเดอร์ที่ใช้งานสะดวก ตัวอย่างเช่น C:\PsTools
3. เปิดคอมมานด์พร้อมท์* จากนั้นเปลี่ยนไปยังโฟลเดอร์ที่เก็บโปรแกรม PsInfo.exe (ตัวอย่างนี้ คือ C:\PsTools) จากนั้นรันคำสั่ง PsInfo.exe (การรันครั้งแรกจะต้องยอมรับ License Terms)

PsInfo จะแสดงข้อมูลการเปิดหรือบูท Windows ครั้งล่าสุดในรูปแบบ days – hours – minutes – seconds ตัวอย่างนี้ คือ 34 นาที 13 วินาที (ถ้าต้องการรู้วันที่ที่เปิดเครื่อง-คุณต้องคำนวณเองครับ) ดังรูปที่ 6

รูปที่ 6

สรุป
การดู Uptime ของ Windows สามารถทำได้ตามวิธีที่แสดงไว้ด้านบน โดยคุณสามารถเลือกใช้วิธีการที่ถนัดหรือชื่นชอบได้ตามอัธยาศัยครับ

*วิธีการเปิดคอมมานด์พร้อมท์:

  • Windows 8, 8.1 หรือ 10: บนหน้าเดสก์ท็อปให้คลิกขวาบนปุ่ม Start หรือกดปุ่ม Windows + X จากนั้นคลิก Command Prompt
  • Windows 7: คลิกปุ่ม Start ป้อน cmd ในช่อง Search programs and files จากนั้นคลิก CMD ที่แสดงอยู่ภายใต้ Programs (1)

**ต้องการ .Net Framework 3.5 ในการทำงาน

แหล่งอ้างอิง
PeTri

Windows 10 Windows 7 8 8.1
Defini

Related Posts

ทดสอบแอปด้วย Sandbox บน Windows 10 เวอร์ชัน 1903

September 26, 2019

การเปิดหรือปิดการซิงค์ OneDrive บน Windows 10 เมื่อใช้ Metered connection

September 26, 2019

การใช้งาน OneDrive Basic หรือ Personal และ Business บน Windows 10 เครื่องเดียวกัน

September 25, 2019

Comments are closed.

Recent Posts
  • ย้ายตำแหน่ง Windows 11 Taskbar ไปอยู่ด้านซ้ายมือ
  • แก้ไขปัญหาไม่มี New Word Doc เมื่อเมนู Right click
  • รีวิว MAKITA DTD157 ไขควงกระแทกไร้สาย: ตัวเล็ก น้ำหนักเบา ตอบโจทย์งาน DIY
  • การลงทะเบียนสินค้ามากีต้า (Makita) ประเทศไทย
  • Panasonic eneloop (AA) 1.2V 1900 mAh แพงกว่า แล้วคุ้มไหม
Ads
Tags
Android Apps Battery Cloud Download Firefox Google Play How-to Hyper-V Internet Explorer IoT Microsoft MS Office & Office 365 OneDrive Operating System PowerShell Server Core Smartphone Step by Step System Administrator Tips Tutorials Virtualization Virtual Machine Windows 7 8 8.1 Windows 10 Windows Insider Windows Server 2012 Windows Server 2016
บทความล่าสุด
  • ย้ายตำแหน่ง Windows 11 Taskbar ไปอยู่ด้านซ้ายมือ
  • แก้ไขปัญหาไม่มี New Word Doc เมื่อเมนู Right click
  • รีวิว MAKITA DTD157 ไขควงกระแทกไร้สาย: ตัวเล็ก น้ำหนักเบา ตอบโจทย์งาน DIY
  • การลงทะเบียนสินค้ามากีต้า (Makita) ประเทศไทย
  • Panasonic eneloop (AA) 1.2V 1900 mAh แพงกว่า แล้วคุ้มไหม
Facebook X (Twitter) Instagram YouTube
  • Home
  • Articles
  • About
    • Sitemap
  • Privacy Policy
© 2025 SARANITUS. All Rights Reserved.

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.