ไมโครซอฟท์ทำการปรับปรุงใหญ่ Windows 10 เป็นครั้งแรกหลังจากออกเวอร์ชันเต็มได้ประมาณ 3 เดือนครึ่ง โดยการปรับปรุงนี้มีชื่อว่า November Update* ซึ่งจะทำการปรับปรุง Windows 10 ทั้งแพลตฟอร์ม รวมถึงไดรเวอร์อุปกรณ์ที่เป็นหุ้นส่วนกับไมโครซอฟท์และแอปพลิเคชั่นสำหรับ Windows 10 โดย November Update จะออกให้ผู้ใช้ผ่านทาง Windows Update ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา
การอัปเกรด Windows 10 November Update
โดยทั่วไปแล้วผู้ใช้ Windows 10 จะได้รับการอัปเกรดเป็น November Update โดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงไม่ต้องดำเนินการตั้งค่าอะไรเป็นพิเศษ แต่ถ้าใครต้องการทำการตรวจสอบและติดตั้งอัปเกรดด้วยตนเอง ให้เข้าไปที่ Settings > Update & security > Windows Update จากนั้นคลิก Check for updates แล้วรอจนการดาวน์โหลดแล้วเสร็จ หลังนั้นให้ทำการเริ่มต้นระบบแล้วรอจนติดตั้งแล้วเสร็จ
การดาวน์โหลดและติดตั้ง November Update นั้นใช้เวลานานหลายนาทีหรืออาจนานเป็นชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วอินเทอร์เน็ตและความแรงของเครื่องที่ทำการอัปเกรดครับ
นอกจากอัปเกรดผ่าน Windows Update แล้ว ยังสามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ Windows 10 November Update ISO มาติดตั้งเองได้เช่นกัน [ไมโครซอฟท์ปิดการดาวน์โหลดแล้ว – 21 พ.ย. 58]
รูปที่ 1: Upgrade to Windows 10 Pro, version 1511, 10586
การปรับปรุงใน Windows 10 November Update
November Update ได้ทำการปรับปรุง Windows 10 ทั้งส่วนที่ใช้งานทั่วไปและในองค์กร
การปรับปรุงทั่วไปใน November Update จะรวมการปรับปรุงในเวอร์ชันตัวอย่างทั้ง 6** ตัวที่ออกให้ Windows Insiders หลังจากออกเวอร์ชันเต็ม (RTM หรือ Build 10240) โดยมีไฮไลต์ดังนี้
- ประสิทธิภาพ: การทำงานประจำวันของ Windows 10 ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การบูทระบบจะทำงานเร็วขึ้นใกล้เคียง 30 เปอร์เช็นเมื่อเทียบกับ Windows 7
- Cortana: ฉลาดมากขึ้น สามารถจดจำการเขียนด้วยลายมือได้ดีขึ้นแม้ว่าจะเขียนหวัดก็ตาม มันยังจดจำหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล หรือแม้แต่ที่อยู่ได้ สามารถติดตามการจองตั๋ว การนัดหมาย และทำการแจ้งเตือนได้ นอกจากนี้ Cortana จะมีให้ใช้งานเพิ่มเติมอีก 4 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แคนาดา และอินเดีย (ภาษาอังกฤษ)
- Microsoft Edge สามารถถ่ายทอดเนื้อหาในรูปแบบวิดีโอ, รูปภาพ และเสียงได้ อ่านรายละเอียดได้ที่ มีอะไรใหม่ใน Windows 10 Threshold 2
นอกจากนี้ ยังปรับปรุงแอปในตัว Windows 10 เช่น Mail, Calendar, Photos, Groove, Xbox, Store, OneNote, Soloraire และ ฯลฯ
ไฮไลต์การปรับปรุงในส่วนของการใช้งานในองค์กรใน November Update มีดังนี้
สืบเนื่องจากปัจจุบันแนวโม้นการนำอุปกรณ์ส่วนตัวมาใช้ทำงานในที่ทำงานมีเพิ่มขึ้น ด้วย November Update จะให้เจ้าหน้าที่ไอทีสามารถจัดการอุปกรณ์ได้ทั้งที่เป็นของบริษัทและ BYOD ที่ผู้ใช้นำมาเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีอุปกรณ์ Windows 10 มากกว่า 110 ล้านเครื่องรวมพีซีในบริษัทต่างๆ ประมาณ 12 ล้านเครื่อง
เปิดบริการใหม่สำหรับธุรกิจ
พร้อมกับการออก November Update ไมโครซอฟท์ได้เปิดให้บริการใหม่สำหรับธุรกิจ 2 ตัวด้วยกันคือ
- Windows Update for Business ช่วยให้ฝ่ายไอทีสามารถควบคุมการปรับใช้อัปเดตระบบภายในองค์กร เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ได้รับการอัปเดตล่าสุดเสมอ ลดค่าบริหารจัดการระบบ โดยมีความสามารถในการจัดกลุ่มอุปกรณ์เพื่อจัดลำดับการปรับใช้ได้ และการปรับขนาดการปรับใช้ให้เหมาะสมกับระบบเครือข่ายขององค์กรได้
- Windows Store for Business เพิ่มความยืดหยุ่นให้ฝ่ายไอทีในการค้นหา เข้าควบคุม จัดการและกระจาบแอปให้กับอุปกรณ์ Windows 10 ทั้งแอป Windows Store (แอปสมัยใหม่) และแอปที่ใช้ในสายการผลิตขององค์กร องค์กรยังสามารถเลือกวิธีการกระจายแอปแบบการกำหนดโดยตรง การเผยแพร่ขึ้น private store เชื่อมต่อกับระบบจัดการที่มีอยู่
การจัดการอุปกรณ์สำหรับสถานที่ทำงานสมัยใหม่
November Update มีความสามารถใหม่ในการจัดการอุปกรณ์ 2 อย่าง ที่จะช่วยให้การทำงานโดยใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย คือ Mobile Device Management และ Azure Directory Join
Mobile Device Management: ช่วยให้ฝ่ายไอทีสามารถจัดการอุปกรณ์ตระกูล Windows ซึ่งรวมทั้งพีซี แท็ปเล็ต โฟน และอุปกรณ์ IOT ได้ดียิ่งขึ้น โดย Windows 10 เป็นแพลตฟอร์มเดียวที่สามารถจัดการการใช้งานในแบบ BYOD จากอุปกรณ์ถึงแอปและไปจนถึงข้อมูลบนอุปกรณ์เหล่านั้นอย่างปลอดภัย และ Windows 10 ยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบโครงสร้างพื้นฐานการจัดการที่มีอยู่ได้อีกด้วย
Azure Active Directory Join: ช่วยให้ฝ่ายไอทีสามารถรักษาไดเร็กตอรีเพียง 1 ตัวได้ และทำให้ผู้ใช้สามารถใช้การตั้งค่า Windows และข้อมูล ข้ามอุปกรณ์ Windows 10 ได้ด้วยล็อกอินเดียว AAD Join ยังคงอนุญาตให้เครื่องมีความพร้อมสำหรับการใช้งานในองค์กรโดยการคลิกเม้าส์เพียงไม่กี่ครั้งโดยใครก็ได้ในองค์กร
เพิ่มความปลอดภัย
Windows 10 ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยสำหรับการใช้งานในองค์กร ได้แก่ Credential Guard, Device Guard, Windows Hello และ Windows Defender และในอนาคตจะเพิ่มคุณสมบัติ Enterprise Data Protection สำหรับใช้ปกป้องข้อมูลของบริษัท
- Credential Guard ป้องกันครีเดนเทียลไว้ภายในสภาพแวดล้อม hardware-based virtualized และป้องกันการโจมตีด้วยเทคนิค “pass the hash” ที่ถูกใช้ในกรณีครีเดนเทียลรั่วไหลครั้งสำคัญต่างๆ
- Device Guard ใช้ Trusted Boot เพื่อป้องกันผู้บุกรุกจากการติดตั้งมัลแวร์ ช่วยให้อุปกรณ์ของบริษัมมีความปลอดภัย
- Windows Hello (ขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์) ยกระดับความปลอดภัยในการลงชื่อเข้า Windows โดยการใช้ระบบไบโอเมตริกระดับองค์กรทำให้สามารถใช้งานลายนิ้วมือหรือการจดจำใบหน้าในการลงชื่อเข้าแทนการใช้รหัสผ่านแบบดั้งเดิม
- Windows Defender เป็นโปรแกรมป้องกันมัลแวร์ฟรีของไมโครซอฟท์ซึ่งมีการใช้งานบนอุปกรณ์ Windows เกือบ 300 ล้านเครื่อง
หมายเลขเวอร์ชัน November Update สำหรับ Windows 10
หมายเลขเวอร์ชันของ November Update สำหรับ Windows 10 เป็น Version 1511 (OS Build 10586.0) ซึ่งเหมือนกับตัว Insider Preview Build 10586 โดยตัวเลข 1511 นั้นเป็นการอ้างอิงปีและเดือนที่ออก คือ 15 = 2015 และ 11 = November
รูปที่ 2: Windows 1o Version 1511 (OS Build 10586.0)
แหล่งข้อมูล
Windows Experience Blog
*November Update สำหรับ Windows 10 เป็นที่รู้จักกันในชื่ออื่นๆ ได้แก่ Version 1511, Threshold 2 และ Fall Update
** ประกอบด้วยบิลด์ 10525, 10532, 10547, 10565, 10576 และ 10586
